นอกจากเตียงนอนสวยๆ และบรรยากาศดีๆ ชวนผ่อนคลายในห้องนอนแล้ว...”ที่นอน” คืออีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราหลับฝันดี เพราะที่นอนถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระ ช่วยให้เรารู้สึกสบายและผ่อนคลายขณะหลับ
เมื่อไหร่ที่เราต้องการที่นอนใหม่ ? ที่นอนไม่ใช่สิ่งที่จะใช้ได้ชั่วนิรันดร์ แม้สภาพภายนอกอาจยังดูดี แต่ความยืดหยุ่นภายในอาจไม่รองรับสรีระได้ดีดังเดิม ซึ่งจะมีผลให้ต่อการนอนของคุณได้ แล้วจะเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่ดี ? มีหลักพิจารณาง่ายๆ ดังนี้
คุณใช้ที่นอนมาเกิน 7 ปีแล้วหรือยัง ? ทุกเช้าคุณตื่นมาพร้อมกับความเมื่อย อาการเจ็บหรือปวดหรือเปล่า ? คุณยังหลับได้ดีเหมือนช่วงหลายปีที่ผ่านมาไหม ? คุณนอนหลับบนที่นอนของคนอื่นมากว่าที่นอนของตัวเองหรือเปล่า? ที่นอนของคุณส่งสัญญาณบางอย่างแล้วหรือยัง เช่น ยุบ ย้อย ฉีกขาดหรือโป่งเป็นก้อน ?
การเลือกซื้อที่นอนให้ตรงตามความต้องการนั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล โดยปัจจุบันที่นอนทำจากวัสดุหลายประเภทและใช้เทคโนโลยีหลายรูปแบบ ในการเลือกซื้อที่นอน คุณจึงควรทดลองนอนด้วยตนเองเพื่อทดสอบความนุ่มของที่นอนว่าตรงใจคุณหรือไม่
ก่อนที่จะไปเลือกซื้อที่นอนใหม่ อย่าลืมคิดถึงสิ่งเหล่านี้
ประเภท ที่นอนประเภทไหนที่คุณต้องการ ? สิ่งที่คุณชอบและไม่ชอบในที่นอนปัจจุบันที่ใช้อยู่ ?
ราคาตรงใจ คุณควรซื้อที่นอนที่ให้ความคุ้มค่ามากกว่าราคาที่ถูก เพราะที่นอนที่มีโครงสร้างที่ดีกว่า ย่อมให้การรองรับสรีระได้ดี และใช้ได้ยาวนานกว่า
ขนาด ยิ่งที่นอนมีพื้นที่กว้าง การพลิกตัวอันจะก่อนให้เกิดการรบกวนแก่ผู้นอนข้างๆ ยิ่งน้อยลง คุณทั้งคู่ควรทดลองนอนเคียงข้างกันและกางข้อศอกออก โดยข้อศอกทั้งสองคนต้องไม่สัมผัสกัน และเตียงนอนควรมีความยาวกว่าส่วนสูงของผู้นอน (ฝ่ายที่มีส่วนสูงมากที่สุด) 10-15 ซม.
ซึ่งขนาดของที่นอนโดยทั่วไปในบ้านเรา คือ เตียงนอนเดี่ยว 3.5 x 6.5 ฟุต เตียงนอนคู่ Queen Size 5 x 6.5 ฟุต เตียงนอนคู่ King Size 6 x 6.5 ฟุต และความหนามักอยู่ที่ 8-12 นิ้ว ส่วนวัสดุก็มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ
ที่นอนยางพารา ลดการกดทับ รองรับแผ่นหลัง ยืดหยุ่นและกระจายน้ำหนักได้ดี
ที่นอนพ็อคเก็ตสปริง มีความยืดหยุ่นดี ไม่สะสมความชื้น นอนแล้วไม่จม ขดสปริงแยกอยู่ในถุงผ้าอิสระ เวลาพลิกตัวจึงไม่สะเทือนคนนอนข้างๆ
ที่นอนเมมโมรีโฟม มีความนุ่มสบาย เพราะเม็มโมรีโฟมจะปรับเข้าหารูปร่างของผู้นอน ลดการกดของกล้ามเนื้อ ทั้งยังคืนรูปดังเดิมเมื่อพลิกเปลี่ยนท่านอน
ที่นอนไฮบริด ที่นอนที่ผสาน 2 เทคโนโลยี คือ Comfort & Support เข้าด้วยกัน โดยใช้วัสดุที่หลากหลาย ทั้ง เมมโมรีโฟม ยางพารา และเทคโนโลยีสปริง DSi-Hour Glass Posture Technology จึงสามารถช่วยรองรับสรีระได้เป็นอย่างดี ลดแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของคนนอนข้างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนเตียงนอน บางคนอาจชอบที่เตียงนอนแบบปรับระดับได้ เพราะสามารถปรับระดับความโค้งให้ยกตัวขึ้นหรือลดลงได้ โดยการควบคุมด้วยมือ (manual) หรือไฟฟ้า (electric) ซึ่งควรใช้ควบคู่กับที่นอนที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ส่วนที่นอนสปริงจะเหมาะกับโครงสร้างเตียงนอนแบบ Firm Structure System ที่มีพื้นเตียงนอนเป็นแผ่นไม้เรียบ เพราะจะทำให้ที่นอนมีความมั่นคงไม่เสียรูป ช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักได้เต็มที่
คุณควรใช้เวลาสักนิดในการเลือกที่นอน ขอให้ลองนอน...นอน...นอนและนอน เพื่อที่คุณจะได้ที่นอนที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด…ราตรีสวัสดิ์และขอให้มีความสุขทุกการนอนนะครับ
ที่นอนหลากประเภทจากแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย รอให้คุณทดลองนอนและเลือกสรร ที่ เอสบี ดีไซน์สแควร์ ทุกสาขา
โทร. 02 115 0555 หรือ http://www.sbdesignsquare.com/