ที่นอนนั้นเป็นส่วนสำคัญหลักในการนอนหลับพักผ่อน จึงควรใส่ใจในการเลือกซื้อ เพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุด เรามี Trick ง่ายๆ กับการเลือกซื้อที่นอนให้ทุกคนได้ไว้เป็นข้อมูลดังนี้
1.เลือกที่นอนให้เหมาะกับขนาดพื้นที่
ขนาดที่นอนนั้นควรเลือกให้เหมาะกับพื้นที่การใช้งาน และจำนวนผู้ใช้งาน เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดขณะนอนพักผ่อน ในประเทศไทยขนาดที่นอนมาตรฐานมีให้เลือก 3 ขนาดดังนี้
- ขนาด 3.5 ฟุต เป็นที่นอนที่นิยมใช้กันในพื้นที่ขนาดย่อมเหมาะกับนอนคนเดียว ในห้องนอนที่มีขนาดเล็กหรือห้องนอนสำหรับเด็ก และก็วัยรุ่นที่ต้องการนอนคนเดียว
- ขนาด 5 ฟุต เป็นที่นอนที่นิยมใช้กันในห้องนอนที่มีพื้นที่ขนาดย่อม หรือผู้ที่ต้องการประหยัดพื้นที่ใช้สอย หรือครอบครัวที่มีห้องนอนขนาดเล็ก เช่น ห้องในคอนโดมิเนียม อพาร์ตเม้นท์ หอพักที่มีพื้นที่จำกัด สามารถนอนได้ถึง 2 คน แต่หากนอนคนเดียวก็ทำให้พื้นที่มากขึ้น เช่นนอนดิ้น หรือมีพื้นที่พลิกตัว ทำให้นอนสบายขึ้น
- ขนาด 6 ฟุต เป็นที่นอนเหมาะกับห้องนอนที่มีขนาดพื้นที่มากพอสมควร และมีพื้นที่เดินข้างเตียงได้สบายๆ เป็นขนาดที่นอนที่นิยมใช้กันทั่วไปโดยเฉพาะกับบ้านเดี่ยว หรือบ้านที่มีห้องนอนขนาดใหญ่ สามารถนอนได้ 2-3 คน
2.เลือกที่นอนให้เหมาะกับวัย
เพราะคนเรามีสรีระ พฤติกรรมการนอน และความชอบแตกต่างกัน จึงมีความจำเป็นต้องเลือกที่นอนที่รองรับสรีระได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้การนอนหลับที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- เด็ก มักจะชอบที่นอนนุ่มๆ แต่ก็ไม่ควรให้นุ่มเกินไป เพราะอาจทำให้การจัดระเบียบร่างกายไม่ดีนัก ส่งผลต่อกระดูกสันหลังในระยะยาว
- ผู้ใหญ่ นอนคนเดียวก็สามารถเลือกที่นอนได้ตามใจชอบ สำคัญที่ต้องสามารถรองรับสรีระได้ดี ไม่ทำให้เกิดการปวดหลังหรือไม่สบายตัวตามมา
- คู่แต่งงาน แบบนอนคู่ ถ้าคุณไม่ได้นอนคนเดียว ที่นอนสำหรับสองคนควรเป็นที่นอนแบบพ็อคเก็ตสปริง ที่ไม่มีแรงสั่นสะเทือนรบกวนคนข้างๆ เวลาพลิกตัว อย่าลืมแบ่งปันความชอบเรื่องระดับความนุ่ม ความแน่น ให้พอใจกันทั้งคู่ด้วย จะได้หลับสบายกันทั้งคู่
- ผู้สูงวัย ควรเลือกที่นอนที่ค่อนข้างแข็ง และหนา โดยความสูงของที่นอนไม่ควรสูงเกินไป และควรเลือกที่นอนที่มีความกว้างมากพอให้พลิกตัวได้
3.เลือกที่นอนจากน้ำหนักผู้ใช้
โดยการเลือกที่นอนจากน้ำหนักสามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้ เช่น คนที่มีน้ำหนักมาก รูปร่างใหญ่ จะเหมาะกับที่นอนที่มีความหนาแน่นสูง เพื่อรองรับน้ำหนัก ป้องกันการยุบตัวของที่นอน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลัง
4.เลือกประเภทที่นอน
ที่นอนสปริง ที่นอนยอดยอดนิยมลำดับต้นๆ เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงมาก โรงแรมและห้องพัก เลือกใช้เป็นจำนวนมาก มีคุณสมบัติ ยืดหยุ่นพร้อมทั้งคืนตัวได้ดี ออกแบบมาให้รองรับสรีระได้มากกว่า ไม่มีการกดทับ
4.เลือกประเภทที่นอน
ที่นอนพ็อคเก็ตสปริง มีความแตกต่างจากที่นอนสปริงทั่วไป คือ การเพิ่มถุงผ้าภายในที่นอน เพื่อช่วยให้สปริงทำงานได้ดีขึ้น ไม่สะเทือนรบกวนคนข้างๆ เมื่อขยับตัว เพิ่มความยืดหยุ่นและรองรับสรีระของผู้นอนได้ดีขึ้น
4.เลือกประเภทที่นอน
ที่นอนโฟม หรือฟองน้ำ มีลักษณะที่โดดเด่นเรื่องความนุ่ม และนิ่ม โดยจะต่างจากที่นอนยางพาราและสปริงในเรื่องการยืดหยุ่นและการคืนตัว ที่นอนประเภทนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการปวดหลัง เนื่องจากที่นอนจะมีความอ่อนยวบมากกว่า ที่นอนแบบอื่น
4.เลือกประเภทที่นอน
ที่นอนเมมโมรี่โฟม คุณสมบัติของเมมโมรี่โฟมประกอบด้วยเซลล์ขนาดเล็กที่มีความหนาแน่นสูง มีโครงสร้างที่ช่วยปรับตัวให้เข้ากับแรงกดทับได้สูง ซึ่งช่วยโอบรับสรีระและน้ำหนักของร่างกายในแต่ละส่วนของเราให้รู้สึกสบายตัว ผ่อนคลายและช่วยลดแรงกดทับที่เป็นหนึ่งในปัจจัยในการเกิดอาการปวดหลัง ปวดเอว หรืออวัยวะส่วนอื่น ๆ ตามร่างกาย
4.เลือกประเภทที่นอน
ที่นอนยางพารา เป็นที่นอน ที่มีความคงทน และอายุการใช้งานได้ยาวนาน 10-20 ปี โดยคุณสมบัติของที่นอนยางพารา คือ ไม่เก็บความชื้นและฝุ่นละออง มีความยืดหยุ่นและความหนาแน่นสูง สามารถปรับตามสรีระได้เป็นอย่างดี จึงทำให้หลับสบาย ไม่ทำลายการนอน แต่มีราคาที่สูง น้ำหนักมาก
ที่นอนดี มีข้อแตกต่างกันไปตามปัจจัยของตัวบุคคล เช่น น้ำหนัก ท่านอน หรือแม้ปัญหาสุขภาพ เพื่อสุขภาพการนอนที่ดี อย่าลืมเลือกที่นอนที่เหมาะกับตัวคุณ
เชิญมาทดลองนอนและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องการนอนได้ที่โซน Mattress World โชว์รูม SB DESIGN SQUARE ทุกสาขา
ศูนย์รวมที่นอน ชุดเครื่องนอน และหมอน ให้คุณได้เลือกมากที่สุด กว่า 20 แบรนด์ชั้นนำ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย