ABOUT HIM
ธนัทเกียรติ จงเกรียงไกร (เอ) : “ผมมองว่างานสถาปัตย์มันคล้ายๆ กับร่างกายคน คือมีภายนอกและภายใน มีทั้ง Function, Passion และ Emotion คือมีทุกอย่างอยูู่ในงานสถาปัตย์เหมือนร่างกายคนเรา แล้วมันก็ขับเคลื่อนด้วยระบบของร่างกายจริงๆ ของเรา “ สัปดาห์นี้พบกับสถาปนิกออกแบบภายในผู้ก่อตั้ง AA+A (Anatomy Architecture + Atelier)
งานหลักๆ ของบริษัทส่วนใหญ่จะมีทั้งที่อยู่อาศัย ร้านค้า และคาเฟ่ครับ เวลาออกแบบเราจะคำนึงถึง Function ในการใช้งาน Passion หรือความต้องการของลูกค้า รวมไปถึง Emotion คือความรู้สึกที่จะได้รับจากการออกแบบนั้นๆ ซึ่งแต่ละโปรเจคผมจะใส่ไอเดียและคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังยึดโจทย์ของลูกค้าเป็นหลัก เราจะเริ่มจากการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับภาพลักษณ์ แบรนดิ้ง หรือไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งาน รวมถึงการสังเกตตัวพื้นที่ว่ามีอะไรที่น่าสนใจที่สามารถจะเก็บเอาไว้ใช้ในการออกแบบหรือนำมาต่อยอดไอเดียได้บ้าง
สำหรับเรื่องการตกแต่ง ผมมองว่าเฟอร์นิเจอร์หรือสินค้าแต่ละชิ้นล้วนมีความสำคัญที่จะทำให้ภาพรวมของงานดีไซน์เกิดความสมดุลและสวยงามครับ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นความสวยงามจากธรรมชาติของวัสดุนั้นๆ มาทดลองหรือต่อยอดให้ได้ Pattern หรือ Form ใหม่ที่มีเสน่ห์มากขึ้น และสามารถดึงมาเป็นจุดเด่นให้กับ Space ได้ ซึ่งสัดส่วนในการตกแต่งก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละโปรเจคว่าองค์ประกอบแต่ละชิ้นจะสามารถตอบโจทย์งานออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์นั้นๆ ได้อย่างไรบ้าง
ถ้าพูดถึงโปรเจคที่ชอบหรือท้าทายเป็นพิเศษก็คงเป็นงานบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังหนึ่ง ที่ลูกค้าต้องการให้ออกแบบเพื่อใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ซึ่งเขาต้องการบ้านที่มีความปลอดภัยสูง โอกาสเกิดอุบัติเหตุทางกายภาพน้อยสำหรับผู้สูงอายุ คือไม่มีขั้นบันไดหรือการยกสเต็ปพื้น ใช้วัสดุที่ไม่ลื่น พื้นที่ในการมองเห็นกว้างขวาง สามารถมองเห็นหรือสังเกตได้ง่าย เป็นบ้านที่เน้นด้านฟังก์ชั่นการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก เราแบ่งบ้านเป็น 2 โซนคือ โซนฝั่งทิศตะวันตก ได้แก่ ห้องนอนทั้งหมดและห้องน้ำ ส่วนโซนทิศตะวันออก ได้แก่ ห้องนั่งเล่น แพนทรี ครัว และโต๊ะทานข้าว ซึ่งเราก็จัดผังบ้านตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้าน ที่ตอนเช้าจะชอบไปนั่งทานอาหารรับแดดยามเช้าจากทางทิศตะวันออก และในช่วงบ่ายที่ใช้เวลาอยู่ในห้องนั่งเล่น ห้องน้ำและห้องนอนก็จะรับแดดช่วงบ่ายจากทางทิศตะวันตกเพื่อฆ่าเชื้อและหลีกเลี่ยงแดดร้อนก่อนที่จะกลับเข้าห้องนอนในตอนกลางคืน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นโปรเจคที่ค่อนข้างครบ องค์ประกอบ ทั้งเรื่องแสง ทิศแดด ทิศลม และฟังก์ชั่นการใช้งานครับ
ส่วนถ้าเป็นงานร้านค้า ก็จะเป็นโปรเจคล่าสุดที่เพิ่งจบไปครับ เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในสยามสแควร์ชื่อ HUUU! เป็นร้านขายแว่นตาเกรดพรีเมียมจากทั่วโลก ซึ่งความท้าทายคือพื้นที่ของร้านอยู่ที่ชั้น 2 ของตึกแถวสูง 4 ชั้น หน้าแคบและยาว จำเป็นต้องหาความน่าสนใจในการดึงคนขึ้นไปจากชั้น 1 และต้องคิดถึงเรื่องการวางตำแหน่งสินค้าและทิศทาง Circulation การเดินของลูกค้าว่าจะทำยังไงให้ลูกค้ารู้สึกไหลลื่น และเพลิดเพลินในการเดินชมสินค้าเหมือนเดินดู Exhibition ซึ่งในส่วนของคอนเซ็ปต์ในการออกแบบ คือ ผมจะพยายามมองก่อนตั้งแต่เริ่มว่า สินค้าคืออะไร มีคุณสมบัติและรูปร่างอย่างไร และมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์แบบไหน ซึ่งรูปแบบแว่นตาที่เข้าใจง่ายที่สุดคือวงกลม เลยลองนำเส้นวงกลมมาทดลองใช้ในบริบทต่างๆ ให้เกิดความน่าสนใจในงานออกแบบครับ
ทั้งนี้ในการจัดสรรพื้นที่ที่ลูกค้าต้องการ คงต้อง List องค์ประกอบในหลายๆ ด้านออกมาเป็นข้อๆ เช่น ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร งบประมาณ ระยะเวลา และการใช้งานเป็นแบบไหน เรียงลำดับความสำคัญออกมาให้ชัดเจน ทั้งแบรนดิ้ง สินค้า บริการ และอื่นๆ เพื่อให้สถาปนิกหรืออินทีเรียร์ได้ใช้ไอเดียในการออกแบบให้ตอบโจทย์และเหมาะแก่การใช้งานมากที่สุด
ส่วนโปรเจคที่ทำให้ AA+A เป็นที่รู้จักน่าจะเป็น Hands and Heart คาเฟ่ที่สุขุมวิทซอย 38 ซึ่งเป็นโปรเจคแรกๆ ที่ผมทำ เป็นร้านคาเฟ่สไตล์มินิมอล ลดทอนดีเทลให้ดูเรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วนเส้นสายที่ชัดเจนและมีองค์ประกอบจากธรรมชาติมาเป็นส่วนเติมเต็ม เช่นการใช้แสงธรรมชาติจากฝ้าเพดาน ใช้ต้นไม้ที่มีอยู่มาเป็น Sculpture ในการตกแต่ง สิ่งที่ผมมักจะบอกน้องๆในทีมเสมอ คือ พยายามอย่ายึดติดกับจุดเดิมๆ ต้องพยายาม Challenge ตัวเองอยู่ตลอดเวลาและต้องพยายามหาสิ่งใหม่ๆที่จะผลักดันงานของเราให้ดียิ่งๆขึ้นไป และเราจะรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ทำงานออกแบบ
ผมมองว่าดีไซน์เนอร์มีความสำคัญในการขับเคลื่อนบริบทของสังคม ทั้งเรื่องพื้นที่ การใช้ชีวิต การใช้งาน และคุณค่าทางศิลปะ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน ถ้าหากดีไซน์เนอร์มีความทะเยอทะยานในบทบาทหน้าที่ของตนเองก็สามารถทำให้ทุกอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นได้ผ่านงานดีไซน์ครับ
- บ้านสมัยก่อนจะไม่เน้นเรื่องแสงเท่าไหร่ วิธีแก้คือการเจาะช่องเปิดเพิ่ม เพื่อให้แสงลอดเข้ามา แต่บางบ้านไม่สามารถทำได้เพราะอาจจะถูกล้อมด้วยบ้านอื่น เช่น ทาวน์โฮมหรืออาคารพาณิชย์ ซึ่งสามารถแก้ได้โดยติดตั้ง Skylight แทน หรือ ใช้ Artificial Skylight ก็ได้ เพื่อให้รู้สึกว่ามีแสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ หรือถ้าต้องการแสงจากธรรมชาติจริงๆ ก็สามารถเจาะหลังคาและปิดด้วยโครงสร้างกระจก หรือถ้าจะให้ประหยัดงบก็ใช้กระเบื้องลอนโปร่งแสงก็ได้ครับ
- ถ้าคิดจะปรับปรุงบ้าน ให้ลองจดรายการความต้องการออกมา และถ้าหากมีงบประมาณที่จำกัดให้โฟกัสพื้นที่ที่สำคัญและมีการใช้งานมากที่สุดก่อน จากนั้นให้ดูแปลนบ้านเดิมว่าสามารถขยายหรือปรับปรุงโดยมีผลกระทบกับโครงสร้างหรือไม่ และจึงดูเรื่องรูปแบบที่ต้องการ วัสดุที่ชอบ อาจจะลองทำแผนงานออกมาให้ชัดเจน
Favorite items
Favorite Corner in SB Design Square
มุมนี้ผมชอบตรงชั้นวางของครับ มันเป็นกาจัดแสดงออกแนว Open Space ครับ มันจะคล้าย Factory นิดนึง ออกแนว Exhibition หน่อยๆ
ชอบมุมนี้ เพราะตัวตู้เสื้อผ้ามีการซ่อนไฟแบบโมเดิร์นอยู่ แล้วก็ส่วนพวกโทนสีก็ค่อนข้างสบายตา และยังมีความหรูหราอยู่บ้าง