ABOUT HIM
ภุชงค์ อารักษ์เวชกุล : “คนเรามีพฤติกรรมต่างกัน เมื่อเริ่มคิดจะตกแต่งบ้านควรเริ่มต้นจากการหันมาดูพฤติกรรมของตัวเราก่อนว่าเป็นยังไง แล้วมันจะสะท้อนออกมาเป็นสิ่งที่เราอยากได้ เป็นแปลนบ้าน เป็นงานตกแต่งภายใน” Design Director & Interior Designer จากบริษัท AplusCon Architects เล่าถึงวิธีคิดในการทำงานออกแบบตกแต่งให้เราฟัง
ผมให้ความสำคัญกับ Space Planning ของบ้าน เพื่อให้ผู้ที่เข้าไปใช้งาน “อยู่สบายและได้ฟังก์ชั่นใช้สอยที่ตรงใจ” เราจะคุยกับลูกค้าในเรื่องของ Planning ของห้องก่อนที่จะเริ่มงานดีไซน์ ผมว่าเรื่องของการวางผังห้องเป็นเรื่องสำคัญ ตรงไหนควรกว้างแคบเท่าไหร่ จะมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นบ้าง มันจะทำให้เราตอบโจทย์ลูกค้าได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น โปรเจคที่เคยทำเป็นคอนโด ซึ่งเราอาจทำอะไรกับพื้นที่ไม่ได้มาก แต่สิ่งที่เราทำคือการรื้อผนังบ้าน เพราะห้องเดิมมันอายุประมาณ 20-30 ปี และเขาก็แบ่งห้องค่อนข้างมืด เราก็รื้อผนังออกแล้วทำแปลนใหม่ เป็นห้องนั่งเล่นแล้วต่อเนื่องด้วยโต๊ะทานข้าว ขยายทางเดินออก ทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น มีการทำช่องแสงให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามามากที่สุด
“แสงธรรมชาติมันเป็นแสงที่เปลี่ยนแปลง ทำให้บรรยากาศของห้องมันเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา คือ ถ้าเราอยู่กับแสงประดิษฐ์เราไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้คือเช้า มืด ฝนตก แดดออก แต่แสงธรรมชาติมันจะเปลี่ยนไปทุกเวลา และเราจะได้เปิดรับลม ทำให้เราได้กลิ่นอายที่เป็นธรรมชาติ เช่น ความชื้นหรือละอองฝนเข้ามาด้วย สัมผัสธรรมชาติเหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกดีกว่าการอยู่แต่ในห้องปรับอากาศอย่างเดียว ส่วนวัสดุที่มักเลือกใช้ในงานออกแบบตกแต่ง ผมเน้นการใช้วัสดุที่ Real เพราะสัมผัสมันได้ อย่างหินเวลาเราจับก็จะรู้สึกเย็นมากกว่าลามิเนตลายหิน หรืออย่างไม้ เราก็รู้สึกได้ถึงผิวสัมผัสของมันที่แตกต่างจากวัสดุที่เราประดิษฐ์ขึ้น และในแง่การใช้งานก็ค่อนข้างทนทานด้วย"
ผมชอบการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เพราะมันเป็นงานที่ค่อนข้างอยู่ได้นาน เป็นสไตล์ที่เรียบๆ ง่ายๆ บางทีเราแค่เพิ่มเติมอะไรไปนิดหน่อย หรือเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์แค่บางชิ้น ก็ทำให้เปลี่ยนลุคของบ้านได้ แต่ถ้าเป็นงานที่สไตล์จัดมากๆ เวลาเราอยากเปลี่ยนลุคของบ้านมันอาจจะค่อนข้างลำบาก
“ความสนุกและท้าทายในงานออกแบบตกแต่ง สำหรับผมคือมันไม่ได้จบแค่ที่งานเสร็จ...แต่ “งาน” มันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ (ทั้งสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ) และได้นำความรู้นั้นไปใช้ในงานอื่นต่อไปได้อีก”
- แปลนบ้านแบ Open Space ทำให้พื้นที่ของเราดูกว้างและไม่อึดอัด สมาชิกในบ้านมีปฏิสัมพันธ์กันได้ต่อเนื่องแม้ว่าแต่ละคนจะทำกิจกรรมอยู่คนละพื้นที่ เช่น คนนึงดูทีวี คนนึงกินข้าวอยู่ หรือถ้ามีเพื่อมาปาร์ตี้เยอะๆ ที่บ้าน ก็สามารถใช้พื้นที่ได้กว้างขึ้น โดยเราสามารถสร้างขอบเขตของแต่ละพื้นที่ให้ดูเป็นสัดส่วนโดยไม่ต้องทำผนังมากั้น เช่น ที่มุมรับแขกอาจจะใช้เป็นพรมหรือโคมไฟตั้งพื้นสักตัว ที่โต๊ะทานข้าวอาจมีโคมไฟแขวนห้อยหรือส่องเฉพาะจุดลงมา หรืออาจมีคอนโซลและโคมไฟตั้งโต๊ะสวยๆ กั้นระหว่างพื้นที่ Living กับ Dining
- ผมให้ความสำคัญมากกับการเลือกซื้อ “โซฟา” เพราะโซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่บอกไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่เราเอาไว้รับแขก และไว้ทำกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เวลาจะเลือกซื้อ...คุณต้องคิดถึงการใช้งานของสมาชิกแต่ละคนในบ้านก่อน ถ้าคุณชอบให้สมาชิกในบ้านมานั่งรวมกันเยอะๆ ก็ต้องใช้โซฟารูปทรงแบบนึง หรือบางบ้านมีห้องรับแขกแยกกับห้องนั่งเล่น การเลือกโซฟาก็ต่างกันแล้ว...ห้องรับแขก อาจต้องใช้โซฟาหนังที่ดูเป็นทางการขึ้นมานิดหน่อย ส่วน Family room ก็จะเป็นโซฟาผ่อนที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายขึ้น
- รูปแบบการจัดวางโซฟาเป็นสิ่งที่มีผลต่อความรู้สึก ของผู้ใช้งาน เช่น ในล็อบบี้โรงแรมเราจะตั้งโซฟาหันหน้าชนกัน เพื่อให้ความรู้สึกที่ดูเป็นทางการ ส่วนในบ้านที่อยู่อาศัยการใช้โซฟาทรง L-shape จะให้ความรู้สึกใกล้ชิดกันทำให้เกิดบรรยากาศอบอุ่น มากกว่าการจัดวางโซฟาแบบ Linear แล้วมีอาร์มแชร์วางแยกเป็นตัวๆ ออกไป
- จะแต่งห้องนอนให้อยู่สบาย ผมว่ามันต้องไม่รก เพราะถ้ารกมันจะมีเรื่องฝุ่น เรื่องการทำความสะอาด เราควรจัดพื้นที่เก็บของให้เรียบร้อยมากกว่า พวกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งก็พยายามหาดีไซน์ที่ดูคลีนๆ เกลี้ยงๆ เคลียร์ เพื่อจะได้ทำความสะอาดง่าย คือ ให้ Form และ Space มันดูเรียบๆ เข้าไว้
- ห้องจะไม่สวยสมบูรณ์ถ้าขาดของตกแต่ง บรรยากาศมันจะดูแห้งๆ ไม่สดชื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องมีอะไรเยอะมากมาย มันอาจแค่มีหมอนสักใบที่สีตัดกับโซฟา พรมสักผืนหรือโคมไฟสักอัน ซึ่งบางทีโคมไฟอันเดียวมันทำให้บรรยากาศของห้องเปลี่ยนไปได้ แค่ลองปิดไฟดาวน์ไลท์แล้วเปิดแต่โคมไฟ แค่นี้บรรยากาศก็เปลี่ยนแล้ว หรืออย่างกรอบรูปที่มีเรื่องราวของเรา...พวกนี้มันทำให้ห้องดูอบอุ่นมากขึ้น
- สิ่งที่จะช่วยเปลี่ยนลุคห้องให้สวยเร็วทันใจและง่ายที่สุด คือ หมอนหรือแจกันดอกไม้ หรือแค่มีกระถางต้นไม้มาตั้งข้างๆ ก็เปลี่ยนบรรยากาศได้แล้ว
Favorite items
Favorite Corners in SB Design Square
ชอบมุมทานข้าวมุมนี้ เพราะผมว่าการใช้สีดำกับงานไม้ และมีเส้นลายกราฟฟิคของตู้ด้านหลังมันทำให้ห้องมันดูพิเศษ เส้นโค้งของโต๊ะและเก้าอี้ กับลายเส้นตรงของตู้มันดูขัดกัน แต่มันดูไปด้วยกันได้ ส่วนลวดลายของจานชามก็ทำให้มุมนี้ดูมี Gimmick น่ารักดี
ชอบมุมนี้ เพราะลักษณะมันคล้ายๆ กับ Open Plan คือมีส่วนที่เป็นมุมโซฟา และมีฟังก์ชั่นอย่างอื่นอยู่ด้านหลัง ซึ่งอาจจะมีตู้เก็บของหรือโต๊ะทำงานหลังโซฟา ซึ่งมันสามารถเป็นรูปแบบของ Space ในคอนโดก็ได้ ซึ่งเป็นการฟังก์ชั่นของพื้นที่แบบต่อเนื่องกัน